กินเลี้ยง...ชมรมไร้ทิศทาง

หลังจากอาการดีขึ้นมาบ้างจากการผิดหวัง(เซ็งเป็ดจริงๆ)พอดีที่ชมรมวิ่งไร้ทิศทางของเรานัดไปกินเลี้ยงประจำเดือนพอดีงวดนี้ไปกินร้านริมน้ำไม่ชอบเลยร้านติดแม่น้ำแต่ดันมีหลังคาทำให้ไม่เห้นวิวดีๆแถมอากาศก็ไม่ถ่ายเทร้อนเป็นบ้าแต่ดีนะที่แกงเขียวหวานปลากรายอร่อยไม่งั้นอารมณ์แน่นๆกิน



ปล.หลายคนไม่ชอบร้านนี้เหมือนกันเลยตกลงไปกินร้านข้าวต้มข้างทางกันต่อแห่ได้ใจจริงๆสั้งกันซะยังไม่เคยกินข้าว(ก็มันถูกกว่าและอร่อยกว่านะสิรู้อย่างนี้กินข้างทางซะที่แรกก้สิ้นเรื่อง

รู้ชีวิตด้วยดวงดาว...ไปซื้อมาแล้ว

หลังจากข้องใจกะชีวิตเลยเดินไปร้านหนังสือตามที่หมอดุได้ทักว่าหน้าจะเป้นหมอดุได้(แต่จริงๆก็สนใจอยู่เหมือนกันแต่ไม่คิดจะเป็นหมอดุนะ)ไปหาเท่าไหร่ก้หาไม่เจอสักร้านก็เลยลองเปิดเน็ตดุว่ามีที่ไหนขายบ่างก้ไปเจอในร้านของมติชล ( http://www.matichonbook.com/) เลยตัดสินใจซื้อมาอ่านผลปรากฎว่าดีมากคิดว่านะเพราะทำให้เรารู้ดวงของเราและสามารถอ่านดวงชะตาเป็นรวมไปถึงของคนอื่นๆถ้าเราสามารถจำได้ทั้งหมดนะนี้แค่อ่านไปสองสามบทเองนะแต่หลังๆยากมากๆไม่รู้จะทนอ่านไปได้นานแค่ไหน


ปล.ความอดทนผมน้อยสะด้วยนี้แค่เล่มแรกนะเนี้ยพี่ ศ.ดุสิต แก่มีตั้งห้าเล่มแถมยังเขียนลงในหนังสือมติชลรายสัพดาอีกผมคงตายก็แน่นๆถ้าเอาดีทางด้านหมอดูเพราะพี่ ศ.ดุสิต แก่ศึกษามาตั้งแต่ปี 2513 แล้วผมแค่สนใจตายแน่นๆ

สี่แพร่ง...หนังสนุกดี

ก่อนหน้าที่ผมจะไปไหว้พระและได้ไปดวงนั้นผมได้มีโอกาศได้ไปดูหนังเรื่องสี่แพร่งและแน่นอนผมยังอยู่ในช่วงอารมณ์ของอารมณ์สีเทาอยู่ไม่รู้เหมือนกันว่าเรียกอารมณ์อะไรดีเอาเป็นว่าเศร้าแบบสุดๆเลยตอนนั้นไม่รู้จะบอกว่าไงต้องโดนด้วยตัวเองถึงจะเข้าใจ ก่อนหน้านี่ผมดูแต่มิวสิกวิดิโอและตัวอย่างหนังสี่แพร่งพอไปดูก็ชอบนะสนุกดี เรื่องแรกว่าด้วยบอกเลิกแฟนทางขอความแล้วตามไปล้างแค้น เรื่องที่สองเป้นเรื่องของการแก้แค้นด้วยไสยาศาด เรื่องที่สามเรื่องนี้ผมชอบนะ(มันตลกมากกว่ากลัวนะ)เป้นการตายแบบไม่รู้ตัวว่าตาย เรื่องสุดท้ายเป้นการตายแบบคำสาป แต่ละเรื่องหน้ากลัวต่างกันไปดุเสร็ดผมแอบแช่งคนที่ทำผมเป็นแบบนี้แต่มันคงเป้นไปไม่ได้หลอก

ปล.ผมไม่ได้เป็นคนเลวนะแค่แอบคิดเชยๆถ้าเป้นจริงผมคงเสียใจยิ่งกว่า
ตัวอย่างหนัง

มิวสิก

หมอดู....ลองดูดิ

ผมข้องใจกับชีวิตของผมมากเลยว่าทะไม่การทำดีแล้วไม่ได้ดีซะที่ทั้งๆที่พยายามเป็นคนดีมาตลอดก้ผมมันคนขี้สงสัยนี่นะตามประสาคนอยากรู้จะไม่ไห้สงสัยได้ไง ก้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาไกล้เคียงกัน เครียดเรื่องงาน เงินช็อด ของพัง แฟนยังมาบอกเป็นเพื่อนกันอีก ผมแบกเอาความเศร้าความเหงาหรือทุกอาการของคนที่ไมมีความสุขซะเลยในชีวิตไปไหว้พระและว่าจะถวายสังฆทานแต่ดันมีแบงพันหาแลกที่ไหนก้ไม่มีคนให้แลกจะถวายทั้งแบงพันก็กะไรอยู่เพราะทุกวันนี้ก้กินมาม่าอยู่แล้วเลยไม่ได้ถวายเลยดูสิตั้งใจทำบุญแท้ๆก้ไม่ได้ทำสงสัยดวงซวยจริงๆเลยแวะไปหาหมอดูที่เราคิดว่าจะช่วยไขข้อข้องใจเราได้ว่าทะไม่ชีวิตมันถึงได้แย่แบบนี้ปรากดว่าก้ไดรู้เรื่องสมใจ(รายระเอียดไม่สามารถบอกได้เป็นความเชื่อส่วนบุคล)ตบท้ายพี่หมอบอกว่าผมเป็นคนไหว้พริบดีแต่ขี้เกรียดเลยไม่ได้ดีกะเขาสักอย่างแกบอกอีกว่าให้ลองมาศึกษาทางด้านนี้ดูเพราะว่าลักคณาเหมือนกันแต่ต้องตั้งใจหน่อย เออเข้าท่าดีแต่ต้อนนี้ยังก่อนได้ไหมเพราะว่าไม่มีอารมณ์จะทำอะไรนอกจากอาการเศร้าๆเหงาๆ

ปล.ผมออกมาจากร้านด้วยความเข้าใจชีวิตแบบตำราของหมอดูแต่ไม่เข้าใจแบบตำราของชีวิตจริงและแน่นอนผมยังคงอยู่ในอารมณ์ของความเศ้ราๆเหงาๆอยู่และไม่รู้ว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะหายเพราะผมไม่ได้ถามพี่หมอเขาซะด้วยสิ

ระบาย...กับความเหงา

ะไม่ช่วงนี้ผมรู้สึกเศร้าและเหงาบ่อยจังไปขอยืม dvd ระครเกาหลีเรื่อง coffee prince มาดูหลังจากดูจากทีวีแล้วมันไม่ได้อย่างใจชอบประโยชน์หนึ่งที่ระเอกพูดกะนางเอกหลังจากที่ที่รู้ว่านางเองเป็นผู้หยิงว่า "ตั้งแต่เล็กจนโตทำไมคนที่ฉันรักทุกคนต้องทิ้งฉัน ฉันขอแค่ใครสักคนเชื่อใจฉํน ทุกๆคนมักพูดกันว่าผมมันแย่ผมมันไม่ดี"มันโดนใจดำผมมากในตอนนี้ผมไม่รู้ว่าแต่ละชีวิตมีการดำเนินชีวิตอย่างไรแต่ของผมมันก็ไม่ได้ดีเหมือนคนทั้วๆไปเป็นอยู่นักผมพยายามทำชีวิตให้มันดีเพื่อให้ทุกๆคนที่ผมรักเชื่อใจผมเพราะมีบ้างคนที่ไม่เชื่อใจผมและเค้าก้กำลังเดินจากผมไปเธออาจะไมรู้ว่าเธอคือกำลังใจของผม แล้วผมจะทำอย่างไรเพื่อเธอหรือให้ใครสักคนเชื่อใจผมและผมต้องใช้เวลาเท่าไหร่ที่ที่จะทำให้เธอหรือใครสักคนให้เชื่อใจผม
ปล. ผมชอบคู่พระลองมากกว่านะมันดูเป็นเรื่องจริงมากกว่าในชีวิต


3วันกับ2คืนกับ....เชียงราย


ผมได้มีโอกาศได้ไปทำงาน(เที่ยว)ที่เชียงรายเป็นเวลา3วัน2คืนเมื่ออาทิตที่ผ่านมาจำได้ว่าฝนตกเพราะเข้าบอกว่าพายุเข้าแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรแก่การเที่ยวแต่อย่างใดสนุกดีมากครับปกติผมชอบจังหวัดทางภาคเหนืออยู่แล้วไม่ว่าจะเรื่องอากาศหรือการเป็นอยู่(หยิงด้วย)โดนเฉพาะตามชนบทตามเข้าตามท้องนาอากาศดีมากๆทำให้ตื่นเช้าๆมาสดชื่นมากๆทำให้ลืมอะไรหลายๆอย่างทำให้บางทีรู้สึกมีพลั
ที่แรกคือพักบ้านดินรีสอด บ้านทำด้วยดินทังหมดครับยกเว้นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆครับพี่เจ้าของชื่อพี่ รวมมิตร แกบอกว่าแกสร้างเองทั้งหมดเลยโดยขุดเอาดินบริเวณที่ๆตั้งรีสอดนะละเอามาทำแกชังพยายามจริงๆเลยแม้กระทั้งหลังคายังเป้นใบใม้สักเลย รอบๆรีสอดเป็นทุงนาข้าวออกรวงสวยมากๆ


ต่อมาตอนเช้าไปทำบุญตักบาตกับพระที่ขี่ม้าลงมาจากเข้าที่เป็นช่าวดังๆนะ
แต่ก่อนเข้าบอกว่าไม่ง่ายเหมือนตอนนี้นะเราก็ไม่รู้ว่ามันเป็นไงแต่ตอนไปต้องขึ้นรถไปไกลเหมือนกันนะจากรีสอดพอทางไปก็ลำบากบางเล็กน้อยรู้สึกว่าต่องขึ้นเขาด้วยเมื่อถึงแล้วก็มีการจัดเตียมสถานที่ไว้เรียบร้อยมีพระมาประชาสัมพันเรียบร้อยรอสักพักพระก็ขี่ม้าลงจากเขามาให้ตักบาตไมชอบอยู่อย่างเดียวคือพอตักบาตเสร็ดพระแก่ดันเอาพระเครื่องมาขายนะสิเสียอารมณ์เลย

สายๆก็ไปขึ้นดอยตุงคับ
ทางขึ้นดอยมันมากพอๆกับกับขึ้นดอยอินทนนของเชียงไหม่เลยสูงชัยและหวาดเสียว ไปชมพระธาตุดอยตุงฝนก็ตกแต่ไม่มากหนาวอีกตะหากแต่ทางขึ้นสวยดีนะมีระฆังตามทางด้วยแต่ขึ้นไปพระธาตุกะลังบูระนะก็อาจจะไม่สวยเท่าไหร่แต่ก้ดีที่ได้ขึ้นไปไหว้


หลังจากที่ไหว้พระธาตุแล้วก็ไปชมพระตำหนักของสมเด็จหย่าที่สวยมากแต่เขาห้ามถ่ายรูปภายในเลยถ่ายได้แต่ภายนอกสวยดีคับชมเส็ดก็ไปชมสวยดอกไม้ที่มีดอกไม้นาๆชนิดด้วยกันมีทั้งสวนต่างๆมากมายตอนนี้ฝนเรื่อมหยุดแล้วก้เดินชมได้สะดวกหน่อยมีคนถ่ายรูปแยะเลยนะ จบการเที่ยวของวันที่สอง

วันที่สามก่อนกลับแวะไหว้พ่อขุนเมงรายและชมวัดรองขุนของอ.เฉลิมชัย วัดสวยมากคับแต่ยังสร้างไม่เสร็ดดีมีคนบอกว่าถ้าไห้เสร็ดก็ต้องรอไปอีก10ปี โอ้จอย์ดเราจะได้มาดูอีกไหมเนี้ยแต่โชคดีได้เจอตัวอ.เฉลิมชัยแบบเป็นๆด้วยเลยไม่พลาดที่จะถ่ายรูปมาให้ชมกันอย่าแอบอิจฉาละอิอิ



ปล.การเดินทางโดยรถทัวขอบอกเม้งเมื่อยตูดชิบถ้ารวยนะพ่อจะนั้งเครื่องบินรอบโลกเลยคอยดู